Hopping in Koh Kood
รีสอร์ทขนาดอบอุ่นเป็นกันเอง แห่งเกาะกูด
______________

รีวิวโรงแรมฉบับสมบูรณ์
Bann Makok The Getaway Koh Kood
( บ้านมะกอก เดอะ เก็ทอะเวย์ เกาะกูด )

1
INTRO

ชวนเปิดประสบการณ์ติดเกาะ ในดินแดนสุดบูรพาของท้องทะเลฝั่งอ่าวไทย ที่ใครต่างขนานนามว่าอันดามันแห่งตะวันออก อีกทั้งชวนคุณเปิดโหมดสงบนิ่ง เรียบง่าย และสมดุล เพื่อค้นพบจังหวะชีวิตที่เหมาะสม โดยมีธรรมชาติคอยเทคแคร์อย่างใกล้ชิด

ถึงแม้ว่าที่นี่ไม่ติดชายหาด ไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น และไม่ค่อยมีสัญญาณโทรศัพท์ แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการหย่อนใจเลยแม้แต่น้อย พาคุณทัศนาจรไปด้วยกันอย่างชิดใกล้ ว่าเพราะเหตุใด? ใคร ๆ ถึงต่างตกหลุมรัก ‘บ้านมะกอก เดอะ เก็ทอะเวย์’ ที่พักขนาดอบอุ่นเป็นกันเอง แห่งเกาะกูด จ.ตราด

2
WELCOME

เคลื่อนไหวอย่างกลมกลืนกับบริบทของป่าโกงกางธรรมชาติ บ้านมะกอก เดอะ เก็ทอะเวย์ ซ่อนตัวอย่างเงียบสงบอยู่ในคลองยายกี๋ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะกูด ลำคลองใสพิสุทธิ์ แลเห็นตัวปลาน้อยใหญ่ ไปจนถึงรากของต้นโกงกาง โอบล้อมด้วยป่าโกงกางธรรมชาติสุดยูนีค เสมือนเป็นกำแพงเขียวครึ้ม พาสดชื่นร่มรื่นเย็นสบาย พร้อมได้ความเป็นส่วนตัว

นอกจากนี้บ้านมะกอกยังได้เสิร์ฟประสบการณ์สุดพิเศษในรูปแบบ Local Experience ชวนให้ใจเต้นแรงทุกครั้งที่นึกถึง ทั้งการได้กระโดดลงไปแหวกว่ายในสระว่ายน้ำธรรมชาติ การได้นอนมุ้งแบบเมื่อครั้งคุณตาคุณยายยังเด็ก ในบางค่ำคืนจะมีไฟดวงน้อยจากเหล่าหิ่งห้อย คอยกระพริบแสงอย่างเป็นจังหวะอยู่หน้าห้องพัก และในยามราตรีของทุกฤดูหนาว จะมีแพลงก์ตอนเรืองแสงสีฟ้า สะท้อนแสงแวววับอยู่ในคลองหน้าที่พักอีกด้วย

ไม่ได้มีสถาปนิก
หากมีแต่สถาปนึกเป็นผู้ออกแบบ

บ้านมะกอกได้รีโนเวทโครงสร้างที่พักแห่งนี้ให้มีชีวิตชีวา โดยคุณโอลีฟ ผู้เป็นเจ้าของที่พักตั้งใจเก็บรักษาโครงสร้างเดิมไว้ เพื่อคงลักษณะบ้านเรือนตามพื้นถิ่นที่อยู่ ชูเอกลักษณ์ความเป็นบ้านชาวประมง แต่ละหลังเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินไม้เล็ก ๆ อันสะท้อนภาพชีวิตชาวประมงที่เคยหยั่งรากอยู่ที่นี่มาก่อน

ตัวโครงสร้างทำจากไม้เก่าเป็นหลัก ทั้งเสา คาน ขื่อ พื้นกระดาน แล้วเติมผนังไม้ ระแนงไม้ มู่ลี่ไม้ เพื่อกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน เหมาะแก่การใช้สอย ส่วนหน้าต่างและประตูเป็นไม้เก่าที่ทางคุณโอลีฟได้ซื้อเก็บสะสมไว้ ซึ่งการใช้วัสดุไม้นี้ ยังทำให้เราได้เห็นถึงลวดลายของผิวสัมผัส อันเป็นเอกลักษณ์ สร้างความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ

อีกทั้งที่นี่ไม่ได้มีสถาปนิกมาช่วยออกแบบแต่อย่างใด หากมีแต่สถาปนึกที่มาช่วยผนึกกำลังกันคนละไม้ละมือ ด้วยความที่นึก ลงมือทำโดยไม่ได้มีกฎเกณฑ์กำหนดไว้ ทำให้แต่ละห้องต่างมีเลย์เอ้าท์และในแบบของตัวเอง

3
LIVING AREA

อีกหนึ่งการตกแต่งที่สร้างสีสันให้กับบ้านมะกอก คือการนำเสนอมุมนั่งเล่นเอนหลังในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งบริเวณห้องพัก และบริเวณ Living Area

อย่างบริเวณโถงพักผ่อนนี้ ก็มีทั้งโซฟา เปล เตียงสระว่ายน้ำ แม้จะมีหลากสีหลายแพทเทิร์น แต่ละจุดก็มีการจับคู่สีอย่างลงตัว อาทิ เปลสีน้ำตาล กับหมอนอิงสีเหลือง โซฟาสีฟ้าเทอร์ควอยซ์กับหมอนอิงสีแดง อีกทั้งยังมีการเปิดโล่งเพื่อรับสายลมและแสงแดด และช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดีด้วย

4
ROOM

ห้องพักของบ้านมะกอกมีทั้งหมด 8 ห้อง และแบ่งเป็น 2 รูมไทป์ ตามลักษณะวิวของห้องพัก คือ Canal View หรือห้องริมคลอง (หมายเลข 5-8) และ Mangrove View หรือห้องชายป่าโกงกาง (หมายเลข 1-4)

แต่ละห้องออกแบบโดยคำนึงถึงความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมเป็นหลัก ประกอบกับการคำนึงถึงการใช้วัสดุ ทรัพยากรที่มีอย่างคุ้มค่า ทำให้เลย์เอ้าท์ภายในและการตกแต่งที่ไม่ซ้ำกัน ทำให้แต่ละห้องมีคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจแตกต่างกันไป

ภายนอกเรียบง่าย ภายในสะดวกสบายอย่างเป็นกันเอง เสริมเสน่ห์ด้วยการตกแต่งภายใน โดยฝีมือสไตลิสท์ตัวจริงเสียงจริง แต่ละมุม แต่ละชิ้นจึงล้วนผ่านการคิดสร้างสรรค์ ประกอบให้มุมแต่ละห้องนั้นมีชีวิตชีวา หลายชิ้นเป็นงานแฮนด์เมด ที่ถูกนำมาเย็บ ปัก ถัก ร้อย อย่างมีสไตล์ จนเป็นอีกหนึ่งในภาพจำประทับใจ ยามนึกถึงบ้านมะกอกแห่งนี้ 

*ห้องพักหมายเลข 1 – 6 เป็นห้องแอร์
*ห้องพักหมายเลข 7 – 8 เป็นห้องพัดลม

ห้องพักขวัญใจมหาชนแห่งบ้านมะกอก
‘ห้องหมายเลข 8’ (พัดลม)

สำหรับห้องพักขวัญใจมหาชนแห่งบ้านมะกอก ทุกคนต่างเทคะแนนให้กับ ‘ห้องหมายเลข 8’ นี้เลย แนบชิดติดคลอง เหม่อมองวิวป่าชายเลนชวนสงบ เคล้าสายลมอย่างเต็มอิ่มได้ทั้งวัน ทั้งยังเสิร์ฟพื้นที่อย่างอบอุ่น (นอนเสริมได้อีก 2 ท่าน) พร้อมระเบียงไม้สำหรับนั่งชิลล์ถึงสองด้าน

เมื่อไล่เรียงภายในห้องจากด้านบนลงมา มีการตกแต่งผนังฝ้าเพดานด้วยไม้ไผ่สานอัดแผ่น ให้ความรู้สึก Tropical Style เข้ากับสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นของเมืองไทย ฝาผนังทั้งสี่ด้าน รวมถึงพื้นกระดานปูตามแนวยาวของไม้ เพื่อลดการตัดให้ได้มากที่สุด

เพิ่มลูกเล่นบริเวณหัวเตียงด้วยการใช้แผ่นไม้เก่าสีฟ้า-ขาว ที่มีกลิ่นอายชายทะเล และแผ่นไม้เก่าติดกระจกสีโบราณ ผสานเข้ากันได้อย่างดิบดี บริเวณที่นอน ยกพื้นสูงขึ้นมา 1 สเต็ป เพื่อแทนการใช้โครงเตียง ได้ฟีลห้องนอนแบบบ้าน ๆ ที่แสนสบาย 

อีกหนึ่ง Local Experience สำหรับผู้มาพักผ่อนที่นี่ ทีมบ้านมะกอกใส่ใจเลือกสรรมุ้งสำหรับแต่ละห้อง โดยห้องหมายเลข 8 นี้เป็นมุ้งกลมแบบโดมแขวน ที่สั่งมาจากบาหลีโดยเฉพาะ ด้วยเป็นมุ้งนอนที่ใช้งานง่าย และยังดูดีมีสไตล์ด้วย

มาดูในส่วนของ ‘ห้องน้ำ’ กันบ้าง

ภายในห้องน้ำมีทั้งโซนอินดอร์และเอ้าท์ดอร์ พร้อมของใช้ในห้องน้ำที่จำเป็นครบ โดยเฉพาะสบู่ และแชมพูของที่นี่ กลิ่นหอมละมุนเป็นที่ถูกใจ จนใคร ๆ ต่างก็ถามไถ่อยู่เป็นประจำ

สำหรับโซนอินดอร์ พื้นปูนขัดมันผสมสีแดง ผนังฝั่งอาบน้ำ (ฝักบัว) ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคสีฟ้า ปิดขอบด้วยกระเบื้องโมเสคสีน้ำตาล หย่อนสีเหลืองไว้บริเวณผนังบางส่วน สร้างบรรยากาศสว่างสดใสยิ่งขึ้น หรือจะลองเปลี่ยนบรรยากาศออกไป Take a Bath ด้วยการจ้วงตักน้ำจากตุ่ม ก็เย็นสบาย ได้ประสบการณ์แปลกใหม่อีกแบบหนึ่ง

ว่าการว่าการอาบป่า เปิดผัสสะทั้งห้าเพื่อรับธรรมชาติ จะช่วยชำระล้างความเครียดได้ การได้อาบน้ำกลางแจ้ง ที่มีรั้วไม้ กำแพงรากต้นโกงกาง ก็น่าจะช่วยให้เราได้ยิน ได้กลิ่น และได้อาบน้ำท่ามกลางป่าธรรมชาติ น่าจะเป็นการชำระล้างทั้งกายและใจไปพร้อม ๆ กัน

พาชมอีกหนึ่งห้องไฮไลท์ริมคลอง
‘ห้องหมายเลข 7’ (พัดลม)

พาเดินข้ามสะพานไม้เล็ก ๆ มายังอีกฝั่งห้องอาหารกันบ้าง กับ ‘ห้องหมายเลข 7’ ซึ่งยังคงเป็นรูมไทป์ห้องริมคลอง (พัดลม) อีกเช่นกัน ไฮไลท์ของห้องนี้ คือ ค่อนข้างไพรเวท และเสิร์ฟสเปชระเบียงส่วนตัวให้อย่างจุใจเลยทีเดียว และเป็นอีกหนึ่งห้องที่เหล่าหิ่งห้อยชักชวนกันมาเยี่ยมเยือนถึงริมระเบียง

มู้ดแอนด์โทนของห้องนี้ ตกแต่งผนังทั้งภายนอกและภายในด้วยไม้ท้องถิ่นอย่างไม้ไผ่ นำลำต้นไม้ไผ่มาเรียงเป็นผนัง อีกทั้งมีเฉดสีที่เข้ากันกับไม้เก่า ให้ความอบอุ่น เป็นธรรมชาติ นอกจากสวยงามแล้ว ยังช่วยดูดซับความร้อน ทำให้อากาศภายในห้องเย็นและมีการถ่ายเท อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์หลักในห้องอย่างเตียงนอน ก็ทำจากไม้ไผ่ด้วยเช่นกัน 

เสริมด้วยไอเดียงานดีไซน์โดยการคลี่ผืนผ้า มาตกแต่งบานประตู หน้าต่าง อย่างมีศิลปะ อีกผลงานประดิดประดอยของโฮมสไตลิสท์ประจำบ้านมะกอก

ภายในโซนของห้องน้ำ จัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า น่ามอง ด้านในเป็นโซนสำหรับห้องน้ำแห้ง และด้านนอกเป็นโซนสำหรับห้องน้ำเปียก อาบน้ำสไตล์ธรรมชาติ หรือจะย้อนวันวาน ด้วยการใช้ขันจ้วงตักน้ำจากในตุ่มมาอาบ ก็เป็นอีกประสบการณ์ที่น่าลอง

5
BEACH

หากอยากเห็นทะเล หรือแตะพื้นทราย เพียงพายเรือคายัคออกไปไม่กี่อึดใจ … ก็มาถึงชายหาดใกล้ที่พักกันแล้ว ‘หาดยายกี๋’ อีกหาดเงียบสงบร่มรื่น มีความยาวประมาณ 300 เมตร นั่งปิกนิก นอนอาบแดดบนเม็ดทรายขาวละเอียด ที่ขนานไปกับผืนน้ำทะเลใสปิ๊ง หรือจะกระโดดลงไปแหวกว่ายในทะเลสีเขียวมรกต … ก็แสนสุขใจ

ยากที่จะหาวิวหนไหนเสมอเหมือน … ข้างหน้าขนานไปกับผืนน้ำ ข้างหลังเป็นภูเขา พายเรือคายัคไปนิดเดียว ก็เปลี่ยนจากซีนป่าชายเลนเป็นชายทะเล

6
BREAKFAST

จากครัวของชาวประมง สู่ห้องอาหารของบ้านมะกอก เดิมพื้นที่ตรงนี้เป็นเพียงครัวโล่ง ๆ กว้าง ๆ จึงได้ดีไซน์ให้เป็นสัดส่วน และใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย นำไม้ไผ่มากั้นเป็นข้างฝา และทำเป็นโครงหลังคาเพื่อกันแดด กันฝน ทว่ายังคงความโปร่งสบาย และกลมกลืนกับบริบทธรรมชาติอย่างแนบเนียน

ชวนตื่นเช้ามาอรุณสวัสดิ์วันใหม่ สูดอากาศให้เต็มปอด พร้อมเติมความอร่อยให้เต็มท้อง ด้วยอาหารเช้าหลากสัญชาติตามชอบใจ อาทิ

‘Continental Breakfast’ (เสิร์ฟอาหารเช้าแบบยุโรป มีทั้ง ขนมปัง มูสลี่กับโยเกิร์ต และผลไม้ตามฤดูกาล) , Asian Breakfast (เสิร์ฟข้าวต้มปลา หรือก๋วยเตี๋ยวเห็ดหอม สุดหอมฉุย) , American Breakfast (เสิร์ฟอาหารเช้าแบบอเมริกันอิ่มหนำทั้งคาร์โบไฮเดรต และโปรตีน) , ไข่กระทะ (อาหารเช้าที่ผสมผสานการกินสไตล์ฝรั่งเศส จีน และยังเมนูรับอรุณยอดฮิตของชาวอีสานมาช้านาน

กระซิบอีกนิดว่าอาหารของที่นี่นั้นรสเด็ดชวนติดใจไม่หยอก บางเมนูยังเป็นสูตรจากเชฟมืออาชีพ เป็นอีกแหล่งฝากท้องห้ามพลาดของผู้มาเยือนเกาะกูด