หากคุณเป็นนักกินตัวยงที่หลงใหลการออกตระเวนไปเที่ยวชิม ลิ้มลองความอร่อยตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ให้ตัวเองแล้วละก็ …
มา “เชียงใหม่” รอบนี้ แนะนำให้ปักหมุด “Oxygen Dining Room” ห้องอาหารแสนเก๋ของโรงแรม Cross Chiang Mai Riverside ที่โดดเด่นในบรรยากาศ กลาสเฮาส์ กรุกระจกใสกลางสวนสวยริมแม่น้ำสุดรื่นรมย์
แน่นอนว่าที่นี่ไม่ได้มีดีแค่บรรยากาศ! เพราะเขามีคอร์สอาหารสุดพิเศษในสไตล์ Thai French Fine Dining Twist ที่เต็มไปด้วยไอเดียสร้างสรรค์ในแบบฉบับ Innovative Cuisine การันตีด้วยรางวัล Michelin Plate ประจำปี 2020 และยังติดหนึ่งในลิสต์ Michelin Guide ประจำปี 2022
โดยทุกจานในคอร์สนี้ เชฟนำเสนออาหารสไตล์ฝรั่งเศสที่ได้แรงบันดาลใจจากสตรีทฟู้ดของไทย ผสมผสานกับอาหารเหนือได้อย่างลงตัว แถมยังใช้วัตถุดิบในพื้นที่เพื่อส่งเสริมสินค้าเกษตรคุณภาพดีในเชียงใหม่อีกด้วย
นอกจากโซนด้านในแล้ว ยังมีที่นั่งด้านนอกให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศดี ๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่ มองวิวแม่น้ำเพลินอารมณ์ แถมบริเวณห้องอาหารด้านในยังมีมุมบาร์เล็ก ๆ ให้เรานั่งจิบเครื่องดื่มแก้วโปรดในบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร
ได้มุมโปรดเรียบร้อย เราพามาเริ่มคอร์สด้วย Amuse Bouche เมนูเรียกน้ำย่อยสุดครีเอทกันดีกว่า รายการนี้ประกอบด้วย
• Shallot Cromesquis
• Pizza Tart
• Pomme Bread and Yuzu Jelly
ไปต่อกันที่ Oxygen Dining Room Khao Kha Moo (ข้าวขาหมูในรูปแบบอาหารฝรั่งเศส) ซึ่งจะปรุงเสิร์ฟเฉพาะหน้าหนาวเท่านั้น! ให้อารมณ์เหมือนแกงกระด้างของทางภาคเหนือที่นิยมกินในช่วงฤดูหนาว โดยจานนี้เชฟปรุงแบบใช้ข้าวเกรียบแทนข้าว มีไข่นกกระทาต้ม ผสมผสานซอสที่ทำเป็นเนื้อเจลใส สีเขียวแทนผักดอง ส่วนสีแดงแทนน้ำจิ้มข้าวขาหมู
อีกจานคือ Wild Ceviche Seabass Somtam ส้มตำซาวิเช่กับซีบาส (เนื้อปลากระพง) คลุกน้ำยำแบบส้มตำไทยรสจัดจ้านแต่ไม่เผ็ดมากทานง่าย เสิร์ฟคู่หนังปลาอบกรอบ แถมยังใช้แผ่นมะละกอแครอทแทนเส้นส้มตำ จานนี้บอกเลยว่าเป็นส้มตำที่ครบรสและทานเพลิน ๆ ที่สุดจานนึงเลย
จานนี้คือ Glazed River Prown Tom Yam กุ้งแม่น้ำเซียเสิร์ฟมาบนต้มยำที่ได้แรงบันดาลใจจาก Lobster Bisque (ซุปกุ้งข้นๆ สไตล์ฝรั่งเศส) ผสมผสานเครื่องต้มยำแบบไม่เผ็ดมาก เสิร์ฟคู่แอปเปิ้ลเขียวและซอสส้มซ่าไว้ให้ทานตัดเลี่ยน
Stuffed Squid ไส้อั่วรูปแบบใหม่! นำเสนอหมึกยัดไส้ด้วยไส้อั่ว ทานคู่ เฟนเนล หรือผักชีล้อม ยำรสเปรี้ยวๆ เคล้าเครื่องสมุนไพรที่หอมลงตัว
ต่อด้วย Khao Soi Gai สะโพกไก่ตุ๋นในน้ำข้าวซอย ห่อเส้นพาสต้า ท็อปด้วยแรดิชสไลด์ ผักดอง และซูกินีสตรีม ทานคู่ซอสข้าวซอยรสเข้มข้นและมูสโคโค่นัท
ปิดท้านคอร์สนี้ด้วยของหวานอย่าง Mango Sticky Rice ข้าวเหนียวมะม่วงที่เชฟครีเอทในรูปแบบของสปันเค้กโรล ด้านในเป็นมูสข้าวเหนียวและมะม่วงสด ราดซอสกะทิอุ่น ๆ ทานคู่ไอศกรีมมะม่วงและซอสมะม่วงอร่อยลงตัว
แล้วพามาปิดมื้อนี้แบบสมบูรณ์ด้วย Mignadish เซ็ตขนม 3 อย่าง พร้อมเสิร์ฟในธีมชาเขียวนำโดย Chocolate Classic, Religieuse และ Macaron
เป็นยังไงกันบ้างกับมื้อพิเศษที่เรานำมารีวิวให้คุณได้ตามมาชิม ไม่ใช่สิ! ตามมาชมกันในครั้งนี้ : ) เอาเป็นว่าหากใครมีโอกาสได้ไปเชียงใหม่ก็สามารถตามเราไปลิ้มลองความอร่อยที่มาพร้อมความคิดสร้างสรรค์ของเชฟที่ไม่เหมือนใคร… เชื่อว่าคุณน่าจะประทับใจแน่นอน